ทำไมภาคธุรกิจยังลังเลที่จะเปิดกิจการ ทั้งๆ ที่รัฐบาลเริ่มเปิดเมือง
วันที่ 27 เม.ย. 2563 เวลา 14:40 น.
การเปิดให้บริการเร็วเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการปิดกิจการอีกรอบในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น
ขณะที่รัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกแม้แต่ประเทศที่ได้รับรุนแรงที่สุดเริ่มที่จะผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด แต่ภาคธุรกิจยังลังเลที่จะกลับมาดำเนินการตามปกติอีกครั้ง หนังสือพิมพ์ The New York Times ได้สัมภาษณ์บริษัทใหญ่ประมาณ 30 ราย พบว่าภาคธุรกิจกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนที่อยากจะคาดเดา และหลายคนบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง
กลัวระบาดระลอกสอง
ในเวลานี้ธุรกิจบางส่วนที่อาจกลับมาทำงานได้ตามปกติอีกครั้ง กลับปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น เพราะกลัวว่าการเปิดเมืองเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดการติดเชื้อคลื่นลูกใหม่และนำไปสู่การปิดกิจการอีกรอบ
“การปิดกิจการเป็นเรื่องยาก แต่การเปิดกิจการจะเป็นเรื่องที่ยากกว่า” Rich Lesser ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Boston Consulting Group กล่าว “นี่เป็นประเด็นคำถามที่มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์”
ต้องทำงานที่บ้านกันต่อไป
บริษัทในสหรัฐทั้งเล็กและใหญ่ยิ่งระมัดระวังมากขึ้น แม้แต่ Coca-Cola ก็ยังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าพนักงานสำนักงานส่วนใหญ่จะทำงานจากบ้านต่อไป ส่วนบริษัท Life Time กิจการโรงยิมที่วางแผนจะเปิดโรมยิม 6 แห่งในรัฐจอร์เจียเมื่อวันศุกร์ ตอนนี้กลับลำยังไม่ยอมเปิด
บริษัทหลายแห่งที่มีพนักงานในสำนักงานเลือกที่จะให้พนักงานทำงานที่บ้านไปก่อน เช่น Morgan Stanley ซึ่งทั้งๆ ที่เป็นสถาบันการเงินที่ต้องพบกับลูกค้าก็ยังจำเป็นต้องให้พนักงานมากกว่า 90% ทำงานจากที่บ้าน บริษัท Gap Inc. ซึ่งเป็นเจ้าของ Banana Republic, Athleta และ Old Navy กล่าวว่าไม่มีแผนจะเปิดร้านค้าในรัฐต่างๆ ในเร็วๆ นี้
การตรวจโรคยังไม่พอรับมือ
ข้อกังวลหลักของบริษัทต่างๆ คือ การเปิดให้บริการเร็วเกินไป ภาคธุรกิจอาจมีส่วนร่วมในการแพร่กระจายของไวรัสซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการปิดกิจการอีกรอบในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
หนึ่งในอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการเปิดเศรษฐกิจในวงกว้าง คือความจำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์ตรวจการติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น และความขัดข้องเรื่องอุปกรณ์ตรวจโรค ทำให้นายจ้างรายใหญ่ที่สุดของประเทศสหรัฐหลายรายปฏิเสธที่จะเปิดกิจการใหม่แม้ว่าจะทำได้ เช่น General Motors, Ford Motor และ Fiat Chrysler ซึ่งปิดโรงงานโดยสมัครใจ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เรียกคนงานในโรงงานกลับมา และเจรจาต่อรองกับสหภาพแรงงานยานยนต์ของคนงานเกี่ยวกับมาตรการด้านความปลอดภัย
สำรวจพบหนึ่งในสามไม่พร้อม
จากการสำรวจโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE ) พบว่าผู้ผลิตสินค้าประมาณ 36% คาดว่าสภาพธุรกิจจะกลับมาเป็นปกติภายใน 5 – 6 สัปดาห์ ขณะที่เกือบครึ่งหนึ่งของเจ้าของกิจการคาดว่าจะใช้เวลา 3 – 6 เดือนหรือนานกว่านั้น
นอกจากนี้ 86% คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวในไตรมาสแรกของปี 2564 โดย 70% คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศจะลดลงอย่างน้อย 2%
เรียบเรียงจาก
As States Push to Reopen, Business Leaders Say Not So Fast
U.S. Firms Divided on Return to Normal Operations, Survey Shows
Photo by AHMAD GHARABLI / AFP