รายได้พรรคการเมืองสวีเดน : ความเป็นอิสระคือหัวใจสำคัญ(1)
วันที่ 16 เม.ย. 2563 เวลา 16:10 น.
โดย…ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร
*************************
ในเว็บไซต์ของรัฐสภาสวีเดน กล่าวว่า ความเป็นอิสระของพรรคการเมือง สื่อสารมวลชนและข้อมูลข่าวสารถือเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความเป็นประชาธิปไตยในฐานะที่เป็นเบ้าหลอมรวมความคิดความเห็นสาธารณะและนำไปเสนอเป็นทางเลือกต่างๆให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงได้พิจารณา ขณะเดียวกัน พรรคการเมืองยังทำหน้าที่ในการให้ความรู้และเปิดโอกาสให้แก่ประชาชนได้มีส่วนร่วมและรับผิดชอบต่อสาธารณะ
ดังนั้น เพื่อให้พรรคการเมืองในสวีเดนสามารถดำเนินกิจกรรมที่กล่าวไปข้างต้นได้อย่างอิสระเสรี รัฐธรรมนูญสวีเดนจึงได้กำหนดให้พรรคการเมืองต้องได้รับเงินสนับสนุนจากสาธารณะ สาธารณะที่ว่านี้คือรัฐและรัฐสภา โดยรัฐและรัฐสภาจะเป็นแหล่งงบประมาณสำคัญให้แก่พรรคการเมืองระดับชาติ อันจะทำให้พรรคไม่ต้องไปอาศัยเงินจากแหล่งอื่นๆ รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญของสวีเดนได้กำหนดเรื่องงบประมาณการเงินของพรรคการเมืองไว้ดังนี้คือ
-รัฐ (the State) จะจัดหาการสนับสนุนด้านงบประมาณเพื่อให้พรรคการเมืองสามารถจัดกิจกรรมต่างๆทั่วไปได้
-รัฐสภาจะต้องจ่ายเงินสนับสนุนให้กลุ่มต่างๆของพรรคและสมาชิกของรัฐสภาเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้
-สภาเทศบาลและสภาท้องถิ่นมีสิทธิ์ที่จะให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่พรรคการเมือง แต่ไม่ได้ผูกมัดว่าจะต้องให้
แม้ว่าพรรคการเมืองจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ รัฐสภาและสภาท้องถิ่น แต่พรรคก็มีอิสระที่จะใช้งบประมาณที่ได้ตามแต่ที่พรรคจะตัดสินใจ
งบประมาณในแต่ละปีที่รัฐและรัฐสภาจัดสรรให้พรรคการเมืองสวีเดนจะมียอดในราว 1522.8 ล้านบาท ถือเป็นแหล่งรายได้ที่มากที่สุดที่พรรคการเมืองได้รับ และยอดเงิน 1522.8 ล้านบาทนี้ได้รับการจัดสรรปันส่วนตามหมวดหมู่ดังต่อไปนี้คือ
รัฐให้เงินสนับสนุนแก่พรรคการเมืองต่างๆทั้งที่มี ส.ส. และไม่มี ส.ส. ในรัฐสภา (The State gives money to parties with and without seats in the Riksdag/ สวีเดนเรียกรัฐสภาว่า Riksdag) เพื่อที่จะให้พรรคการเมืองทุกพรรคสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของตนได้ แม้ว่าจะไม่มีผู้สมัครของพรรคได้เป็น ส.ส. เลยก็ตาม แต่มีเงื่อนไข ดังจะเห็นได้จากการจัดสรรงบประมาณที่มีความแตกต่างกันสำหรับพรรคที่มี ส.ส. กับ พรรคที่ไม่มี ส.ส.ในรัฐสภา
สำหรับพรรคที่มี ส.ส. ในรัฐสภา จำนวนของ ส.ส. จะเป็นตัวกำหนดงบประมาณที่จะได้ ส่วนพรรคที่ไม่มี ส.ส. จะได้รับเงินสนับสนุนต่อเมื่อพรรคได้คะแนนเสียงอย่างน้อยร้อยละ 2.5 ของคะแนนเสียงทั้งประเทศในการเลือกตั้งที่ผ่านมาสองครั้งหลังสุด การให้งบประมาณสนับสนุนเพื่อกิจกรรมทั่วไปของพรรคการเมืองนั้นจะให้ผ่านองค์กรต่างๆของพรรคในระดับชาติ และพรรคมีอิสระที่จะใช้งบประมาณสนับสนุนที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์หาเสียง ป้ายหาเสียงและค่าใช้จ่ายต่างๆในระดับชาติและระดับท้องถิ่น
การจัดสรรการสนับสนุนงบประมาณของรัฐแก่พรรคการเมืองในรัฐสภา (Distribution of State support to the Riksdag parties) การสนับสนุนดังกล่าวนี้จะกระทำผ่านองค์กรต่างๆของพรรคในระดับชาติ อันประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นการสนับสนุนพรรค (party assistance) และส่วนที่เป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของพรรค (office assistance)
สำหรับการสนับสนุนพรรค จะจัดสรรโดยคำนึงถึงที่นั่ง ส.ส. ในรัฐสภาตามผลการเลือกตั้ง อย่างเช่น การเลือกตั้งทั่วไปในสวีเดนวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ยอดงบประมาณสนับสนุนพรรคคือ 1,031,152.68 บาทต่อหนึ่งที่นั่งในรัฐสภาต่อปี
สำหรับการสนับสนุนการดำเนินงานของพรรค จะจ่ายให้กับทุกพรรคที่มี ส.ส. ในรัฐสภา ประกอบไปด้วยงบพื้นฐานและงบเสริม งบพื้นฐานนี้อยู่ในราว 18.792 ล้านบาทต่อพรรค ส่วนเงินเสริมอยู่ในราว 52,974 บาทต่อหนึ่งที่นั่งสำหรับพรรคที่เป็นรัฐบาลและ 78,732 บาทสำหรับพรรคอื่นๆที่เหลือในรัฐสภา
รัฐสภาให้เงินสนับสนุนสำหรับกิจกรรมต่างๆของสมาชิกรัฐสภาและกลุ่มต่างๆของพรรค (The Riksdag pays financial support for the activities of members of the Riksdag and the party groups) นอกเหนือไปจากเงินสนับสนุนจากรัฐสำหรับองค์กรพรรคการเมืองระดับชาติแล้ว พรรคต่างๆในรัฐสภายังได้รับเงินสนับสนุนสำหรับกิจกรรมต่างๆของสมาชิกรัฐสภาและกลุ่มต่างๆของพรรค โดยการสนับสนุนด้านการเงินในส่วนนี้ประกอบไปด้วย
-การสนับสนุนพื้นฐานอันได้แก่ ค่าใช่จ่ายพื้นฐานและค่าใช้จ่ายเสริมที่อิงอยู่กับจำนวนสมาชิกของกลุ่มในพรรคการเมือง ค่าใช้จ่ายพื้นฐานจะอยู่ที่ 5.508 ล้านบาทต่อปี กลุ่มพรรคการเมืองที่อยู่ในรัฐบาลจะมีสิทธิ์ที่จะได้รับค่าใช้จ่ายพื้นฐานนี้ ในขณะที่กลุ่มพรรคการเมืองอื่นๆจะมีสิทธิ์ได้ค่าใช้จ่ายพื้นฐานนี้เป็นจำนวนสองเท่าของยอดที่กล่าวไป ส่วนค่าใช้จ่ายเสริมอยู่ในราว 184,680 บาทต่อสมาชิกหนึ่งคนต่อปี
-การสนับสนุนที่ปรึกษาทางการเมืองของสมาชิกรัฐสภา การให้งบประมาณสนับสนุนในส่วนนี้ก็เพื่อต้องการให้มีค่าใช้จ่ายช่วยการบริหารจัดการแก่สมาชิกรัฐสภา และก็ให้อิสระแก่สมาชิกพรรคแต่ละคนที่จะใช้เงินส่วนนี้ได้ โดยประมาณการจากค่าใช้จ่ายสำหรับที่ปรึกษาทางการเมืองต่อสมาชิกหนึ่งคนโดยคิดเป็นงานในราว 204,444 บาทต่อที่ปรึกษาหนึ่งคนต่อเดือน และอย่างที่กล่าวไปแล้วว่า แล้วแต่พรรคจะจัดสรรเงินก้อนนี้ไปเพื่อจัดตั้งสำนักงานคณะที่ปรึกษาและคณะเลขาธิการที่เหมาะสมตามความต้องการต่างๆของพรรค
-การสนับสนุนค่าเดินทางต่างประเทศของสมาชิกรัฐสภา การสนับสนุนในส่วนนี้ต้องการให้สมาชิกรัฐสภาสามารถมีส่วนร่วมในการประชุมระดับนานาชาติ ฯลฯ โดยจัดสรรให้สมาชิกรัฐสภาสำหรับ ส.ส. ยี่สิบอันดับแรกในรัฐสภา โดยสมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนี้จะได้รับเงินอุดหนุน 16,200 บาท และสมาชิกรัฐสภาที่เหลือจะได้ 8,100 บาท ส่วนกลุ่มในพรรคจะได้รับ 8,100 บาทต่อปีต่อหนึ่งคนสำหรับการเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เกี่ยวกับความร่วมมือกับเขตเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Area) -การสนับสนุนสำหรับค่าใช้จ่ายอบรมด้านภาษา เพื่อสนับสนุนให้สมาชิกรัฐสภาได้รับการอบรมด้านภาษา โดยตั้งแต่ พ.ศ. 2561 เป็นต้นมา ได้มีการให้เงินอุดหนุนเป็นจำนวน 6,480 บาทให้แก่สมาชิกพรรคแต่ละคนในช่วงสองปีที่ผ่านมาหลังการเลือกตั้งทั่วไป
นอกจากนี้ สมาชิกและเลขาธิการพรรคสามารถเข้าถึงอุปกรณ์เครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆในอาการรัฐสภาๆได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พวกเขาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในสิ่งเหล่านี้ (ข้อมูลข้างต้นมาจากเวปไซต์ของรัฐสภาสวีเดน (http://www.riksdagen.se/en/how-the-riksdag-works/the-work-of-the-riksdag/the-parties-at-work/)
ที่กล่าวมานี้ ต้องการชี้ว่า รายได้ของพรรคการเมืองในสวีเดนจะมาจากการสนับสนุนจากรัฐและรัฐสภาเป็นหลัก เพราะอย่างที่กล่าวไปตอนต้นแล้วว่า “รัฐธรรมนูญสวีเดนกำหนดให้พรรคการเมืองได้รับเงินสนับสนุนจากสาธารณะ โดยให้รัฐและรัฐสภาจะเป็นแหล่งงบประมาณสำคัญให้แก่พรรคการเมืองระดับชาติ อันจะทำให้พรรคไม่ต้องไปอาศัยแหล่งเงินจากที่อื่นๆ” เพื่อส่งเสริมและพิทักษ์รักษาหลักการที่ว่า “ความเป็นอิสระของพรรคการเมืองคือหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตย”
และเมื่อผู้อ่านอ่านมาถึงตรงนี้ ก็อาจจะเกิดคำถามว่า เงินสนับสนุนจากรัฐและรัฐสภานั้นเพียงพอสำหรับพรรคการเมืองของสวีเดนหรือไม่ ? และกฎหมายในสวีเดนเปิดโอกาสให้พรรครับบริจาคได้ไหม มีวงเงินจำกัดหรือไม่ ? และพรรคการเมืองกู้เงินได้ไหม และมีวงเงินจำกัดหรือไม่ ? และกู้หัวหน้าพรรคตัวเองได้หรือไม่ ? แล้วของไทยเรา รัฐมีเงินสนับสนุนพรรคการเมืองหรือไม่ และเท่าไร ? พอใช้ไหม ? คงต้องติดตามตอนต่อไป