เพื่อไทยเรียกร้องส.ส.ทุกพรรคอย่าให้ประชาชนฆ่าตัวตายรายวัน – โพสต์ทูเดย์ ข่าวการเมือง

เพื่อไทยเรียกร้องส.ส.ทุกพรรคอย่าให้ประชาชนฆ่าตัวตายรายวัน

วันที่ 22 เม.ย. 2563 เวลา 11:01 น.

“ชวลิต”อัดวาระแห่งชาติกู้วิกฤตโควิด-19จอมปลอม เรียกร้องส.ส.ทุกพรรคหาทางหยุดประชาชนฆ่าตัวตายรายวัน

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นว่า จากข่าวที่ประชาชนคนไทยฆ่าตัวตายรายวัน ข่าวคนตกงานนับล้าน ๆ สภาพเหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะยากจนอย่างกระทันหันจากพิษไวรัสโควิด – 19 แต่เมื่อดูกระบวนการช่วยเหลือ เยียวยาของรัฐบาลที่มีต่อประชาชนแล้ว เห็นได้ว่า ทั้งช้า ทั้งมีหลักเกณฑ์ที่หยุมหยิม ยุ่งยาก ที่สำคัญ การเยียวยา ไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดความเดือดร้อน ระส่ำ ระสายไปทั่วแผ่นดิน ขอตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา ได้บริหารประเทศมา 6 ปีแล้ว เห็น ๆ กันอยู่ว่า ขนาดไม่มีวิกฤตไวรัสโควิด – 19 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ฯ ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ของประชาชนได้

ทั้งนี้ การสำรวจของโพลทุกสำนักที่ผ่านมาทุกปี ๆ เป็นเครื่องพิสูจน์ ณ สถานการณ์ปัจจุบัน เมื่อมาประสบกับวิกฤตไวรัสโควิด – 19 ซึ่งมีฤทธานุภาพที่สลับซับซ้อน พ่นพิษถล่มเศรษฐกิจของประเทศไทยจนชาวบ้านร้องกันระงม ผมมองไม่เห็นทางออกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ฯ จะแก้วิกฤตเศรษฐกิจได้อย่างไร เพราะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา เป็นเวลาที่ยาวนานมาก เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลไม่มีความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชนได้ ซึ่งหมดข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น

ณ ขณะนี้มีเพียงองค์กรด้านสาธารณสุข คือ แพทย์ และพยาบาล ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง สามารถแก้ไขปัญหาด้านการควบคุมโรคได้อย่างน่าชมเชย แต่ในประเด็นการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ ฯ นั้น ถ้าจะให้รอบคอบ รัดกุม เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ควรส่งเสริมแนวทางให้ทุกภาคส่วนระดมความคิด แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ บูรณาการให้เป็นวาระแห่งชาติอย่างแท้จริง แต่ปัจจุบันเป็นวาระแห่งชาติจอมปลอม ในทางคำพูด พล.อ.ประยุทธ์ ฯ ได้ยกวิกฤตไวรัสโควิด – 19 เป็นวาระแห่งชาติ

แต่ในทางปฏิบัติ พล.อ.ประยุทธ์ ฯ อาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวบอำนาจไว้อยู่ในมือแต่ผู้เดียว ซึ่งเป็นที่น่ากังวลว่า ในกระบวนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจรัฐบาลจะนำพาประเทศจมลึก ดิ่งเหว ก่อหนี้มหาศาลมาสู่ลูก หลานให้ตามแก้กันไม่หวาด ไม่ไหว

สถานการณ์ของประเทศขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤตทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม อย่างรุนแรง อย่างไม่เคยมีวิกฤตหนักหนาสาหัสเช่นนี้มาก่อน พรรคการเมืองฝ่ายค้านได้พยายามเสนอแนวทางเปิดสภาสมัยวิสามัญมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ เพื่อหาทางออกจากวิกฤตร่วมกัน แต่ไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาล ทั้ง ๆ ที่ในอดีตแม้ไม่มีวิกฤตไวรัสโควิต – 19 ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ดังกล่าวข้างต้น

มาสัปดาห์นี้ ได้เห็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรค คือ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนา และพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันมีหนังสือเสนอปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้รัฐบาลได้ทราบ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด นับเป็นความกล้าหาญของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลดังกล่าว ซึ่งก็คงทนเห็นความเดือดร้อนของประชาชนไม่ไหว

จากเสียงสะท้อนของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลดังกล่าวเห็นได้ว่าเสียงเรียกร้องของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านที่สะท้อนความเดือดร้อนประชาชนไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอย แต่ตั้งอยู่บนฐานของความเป็นจริง จึงขอเรียกร้องมายังเพื่อน ส.ส.ทุกพรรคการเมือง โปรดนำความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่มาเสนอแนะต่อรัฐบาลผ่านช่องทางรัฐสภา เพื่อให้เม็ดเงินงบประมาณซึ่งมาจากภาษีของพี่น้องประชาชนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ไม่ควรรอเปิดสภาสมัยสามัญ ซึ่งจะประชุมได้ตั้งแต่วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2563 นับว่าช้าเกินไป กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ เวลาจากนี้ไปอีก 1 เดือนเศษ มีค่ายิ่งกว่าเงินทองใด ๆ หากรัฐบาลต้องการยกวิกฤตไวรัสโควิด – 19 เป็นวาระแห่งชาติจริงๆ ได้แต่ภาวนาว่า ให้บรรดา ส.ส.ทุกพรรคการเมืองออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดสภาสมัยวิสามัญกันมาก ๆ อย่าปล่อยให้ประชาชนฆ่าตัวตายกันมากกว่านี้ เห็นแล้ว สุดเศร้า น่าเสียใจจริง ๆ