แฮกเกอร์เจาะแล็บอู่ฮั่น หวังล้วงข้อมูลไวรัสระบาด
วันที่ 25 เม.ย. 2563 เวลา 10:48 น.
แฮกเกอร์อาละวาดเจาะแล็บวิจัยไวรัสในอู่ฮั่น หวังล้วงข้อมูลต้นต่อการระบาด
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า ห้องปฏิบัติการวิจัยด้านไวรัสวิทยาในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดถึงต้นกำเนิดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ได้ตกเป็นเป้าโจมตีของบรรดากลุ่มแฮกเกอร์
เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยโดย SITE Intelligence Grou กลุ่มเอกชนที่มอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวทางไซเบอร์ของบรรดากลุ่มก่อการร้าย โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่่ในหน่วยงานดังกล่าวได้รับอีเมล์ที่ไม่สามารถระบุต้นต่อได้ รวมถึงหน้าต่างล็อกอินเข้าระบบปลอม ซึ่งข้อมูลความพยายามแฮกนี้ถูกแชร์ผ่านแพล็ทฟอร์มสังคมออนไลน์อย่างเทเลแกรมและทวิตเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ใช้งานที่เป็นกลุ่มขวาจัด
สำหรับสถาบันวิจัยไวรัสในอู่ฮั่นเป็นหน่วยงานใกล้ชิดกับสถานบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน ดำเนินงานปฏิบัติการทดลองทางชีวนิรภัยระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดสำหรับการวิจัยเชื้อโรคร้ายแรง ซึ่งหลายฝ่ายต่างตั้งข้อสันนิฐานถึงทฤษฏีสมคบคิดเรื่องที่ว่าไวรัสเกิดจากความผิดพลาดรั่วไหลจากแล็บโดยไม่ได้ตั้งใจ
ไม่เพียงหน่วยงานของจีนเท่านั้น องค์กรระดับโลกอย่าง WHO ก็พบรายงานเจ้าหน้าที่อนามัยโลกได้รับอีเมล์ต้องสงสัยมากกว่า 450 ครั้งเช่นกัน แต่ทางอนามัยโลกยื่นยันว่าไม่ได้มีความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญแต่อย่างใด โดยส่วนที่อาจได้รับผลกระทบนั้นมีเพียงระบบเอ็กทราเน็ตรุ่นเก่าที่ใช้งานโดยพนักงานปัจจุบันและพนักงานเกษียณรวมถึงพันธมิตรของอนามัยโลกบางหน่วยงานเท่านั้น เช่นเดียวกับมูลนิธิบิลแอนด์เมลินดาเกสต์ สำนักควบคุมโรคสหรัฐ และธนาคารโลก ต่างก็ได้รับอีเมลลักษณะเดียวกัน
แม้จะไม่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ดำเนินการโจมตีทางไซเบอร์ แต่ SITE เชื่อว่าคนเหล่านี้มีวัตถุประสงค์ล้วงข้อมูลที่อาจเกี่ยวข้องกับทฤษฎีสมคบคิดการระบาดใหญ่
ด้าน FireEye บริษัทที่ปรึกษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ต้นต่อของแฮกเกอร์ที่พยายามล้วงอีเมล์เจ้าหน้าที่จีน และหน่วยงานของรัฐบาลจีนนั้นบางส่วนมีต้นทางอยู่ในกรุงอานอยของเวียดนาม แต่ต่อมาทางการเวียดนามได้ออกมาปฏิเสธคำอ้างดังกล่าว
ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ไม่ยืนยันว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นกับหน่วยงานจีนหรือไม่ รวมถึงไม่มีการพูดถึงสถาบันวิจัยไวรัสในอู่ฮั่น โดยกล่าวเพียงว่า “การโจมตีทางไซเบอร์กับหน่วยงานที่พยายามต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาควรถูกประณาม”
แฟ้มภาพ : AFP